ส่วนคติทางพุทธนั้นปรากฏในชาดก และในไตรภูมิพระร่วง
ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับนาค สำหรับคนพื้นบ้านทั่วไปนั้นนาคกับน้ำก็เป็นของคู่กัน
พญานาคเป็นสัญลักษณ์แห่งธาตุน้ำ และยังเป็นตัวกำหนดปริมาณน้ำในแต่ละปีว่าน้ำจะมากหรือน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับจำนวนของนาคให้น้ำ
กล่าวคือ ปีใดจำนวนที่นาคให้น้ำมีน้อย เช่น ตัวเดียว ปีนั้นน้ำจะอุดมสมบูรณ์เหลือกินเหลือใช้
แต่ถ้าปีใดจำนวนนาคที่ให้น้ำนั้นมากปีนั้นฝนจะแล้ง เนื่องจากนาคเหล่านั้นกลืนน้ำเข้าไปในท้องจนน้ำแห้งหายไปหมดความสำคัญของนาคหรือพญานาคต่อมนุษย์
เห็นชัดเจนมากในชาวภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงมีความเชื่อเรื่องของพญานาคมาเนิ่นนาน
มีตำนานที่กล่าวถึงความเป็นมาของสถานที่สำคัญๆอันเป็นผลจากการกระทำของพญานาค
เช่น แม่น้ำโขง, แม่น้ำมูล แม่น้ำชี แม่น้ำน่าน แม่น้ำงึม
หนองบัวบาน ภูกำพร้า ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุพนม
เป็นต้น แม้เวลาจะผ่านไปแต่ความเชื่อว่าพญานาคยังมีตัวตนก็ยังคงอยู่
เห็นได้จากปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ที่เป็นลูกไฟพุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขงสู่ท้องฟ้า
ไม่มีเสียง ไม่มีควัน มีแต่ลำแสงที่เมื่อพุ่งสู่อากาศแล้วก็หายไป
แม้จะมีความพยายามหาเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนมากนัก
ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร นาคหรือพญานาคก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งน้ำ
แห่งความร่มเย็น ความดีงาม และความอุดมสมบูรณ์ตลอดไป |