Medusa

เมดูซ่า Medusa
   เมดูซ่า เป็นชื่อที่ทำให้นึกถึงนางมารร้ายที่มีผมเป็นงู แต่คำว่า เมดูซ่า - Medusa เป็นคำที่มีมานานมากแล้ว ที่ยังคงเป็นรากศัพท์ไว้ในหลายๆภาษาโบราณ เช่น ในภาษาสันสกฤต คือ "เมธา ในภาษากรีก คือ Metis และในภาษาอียิปต์โบราณคือคำว่า Met หรือ Maat มีแหล่งกำเนิดจากตำนานของประเทศลิเบีย ที่นำเข้ามารวมในตำนานกรีกทีหลัง เป็นที่นับถือของชาวลิเบียโบราณว่าเป็น เทพแห่งงู หรือเจ้าป่าเจ้าเขาผู้มีอำนาจดุร้าย ในยุโรปสมัยโบราณยุคหิน งู ยังไม่ได้เป็นสัญญลักษณ์ของความชั่วร้าย ซึ่งเป็นทัศนคติตามคริสตศาสนาที่เกิดขึ้นมาภายหลัง หากเป็นสัญญลักษณ์ของพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ และก็อาจเป็นไปได้ที่ว่า เมดูซ่า เจ้าแม่ผู้ทรงพลังจากสังคมโบราณ เป็นเค้าเงื่อนที่ชาวอินเดียนำไปผูกเป็น เจ้าแม่ทุรคา หรือ กาลี ก็ได้ เมดูซ่า นั้น แต่เดิมทีหลายพันหลายหมื่นปีมาแล้วก็คงเป็น เจ้าป่าเจ้าเขาที่มีอำนาจ มีผมขอดหยิกหยักถักเป็นเปียเล็กๆทั่วทั้งหัวแบบชาวอัฟริกัน (แบบที่เรียกว่า
dreadlocks) ที่ดูคล้ายงูในสังคมดึกดำบรรพ์ ที่ยังนับถือยกย่องให้ผู้หญิงเป็นใหญ่ ภายหลังที่สังคมกรีกกลายมาให้ผู้ชายเป็นใหญ่ ภาพพจน์ของ เมดูซ่า ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เนื่องจากเทพบุรุษเข้ามาแทนที่เทพสตรี ในสังคมกรีก ในช่วงพันปีแรกของอาณาจักรกรีก จนมาถึงประมาณ ๖๐๐ ปีก่อนคริสตศตวรรษ วิหารบูชา เมดูซ่า ก็ถูกทำลายลงไปไม่เหลือซาก ชาวกรีกคงเอามาผูกเป็นตำนานให้เป็นนางมารร้ายไปในภายหลัง ชื่อของเธอ ก็กลายไปเป็นเพียงตำนานแห่งความพ่ายแพ้ ที่ถูกฆ่าโดย เพอร์ซีอุส แล้วชาวกรีก ก็ถ่ายทอดพลังอำนาจของ เมดูซ่า มาให้ เทพอะธีน่า ผู้เป็นเทพสตรีตัวอย่างของสังคม ที่ชาวกรีกต้องการใช้เป็นแบบอย่าง คือรักษาพรหมจรรย์ และรับใช้ครอบครัว ยึดมั่นในความซื่อสัตย์จงรักภักดีและเทิดทูน เทพเซอุส พระบิดา เหนือตนเอง ตามตำนานกรีกนั้น เมทิส แม่ของเมดูซ่าและพี่น้องอีกสองสาว ทั้งเมดูซ่าและพี่สาวแต่เดิมนั้น เป็นสาวงามมาก ต่อมา เมทิส แม่ของนาง ถูก เทพเซอุส ข่มขืน แล้วกลืนลงท้องไป เมทิส เป็นเจ้าแห่งปัญญา และสามารถแปลงร่างต่างๆได้ เซอุส จึงอาศัยพลังปัญญาและเวทย์มนต์ของ เมทิส มาเพิ่มอำนาจให้ตัวเอง ช่วยให้ เซอุส มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าเทพทั้งปวง และยังสามารถแปลงร่างได้ดังใจนึก ไปเอาสตรีมากมายเป็นภรรยาได้ในภายหลัง พลังของ เมทิส สำลักออกทางหน้าผากของเซอุส กลายเป็นเทพธิดา อะธีน่า ผู้ได้รับมรดกทางปัญญาจาก เมทิส ผู้เป็นแม่ ตั้งแต่เกิดมา อะธีน่า ก็ถือ เมดูซ่า เป็นศัตรูคู่แค้นที่จักต้องพิฆาตให้ดับสิ้น เพราะในบรรดาพี่น้อง มีแต่เมดูซ่า ผู้เดียวที่เป็นมนุษย์ พี่สาวชาวกอร์กอนทั้งสองร่วมท้องแม่ของเธอ มีสถานะเป็นเทพ จึงฆ่าไม่ตาย อะธีน่า จึงหันมาหาทางทำลาย เมดูซ่า แต่ผู้เดียวในบรรดาลูกแม่เดียวกันทั้งหมด วันหนึ่งใน วิหารอะธีน่า ที่ชาวกรีกสร้างไว้บูชาสักการะแต่ละเทพเป็นวิหารๆไป เทพอะธีน่า เป็นเทพอุปถัมภ์ของสาวพรหมจารี ที่สตรีพรหมจรรย์ชาวมนุษย์มักไปบูชา สาวงาม เมดูซ่า ที่มีชายมากหลายหมายปอง ก็ไปบูชา เทพอะธีน่า ยังวิหารตามปกติ เทพโพไซดอน ได้ประจักษ์เห็นความงามของนางแล้ว ก็ต้องการครอบครองโดยใช้กำลังขืนใจ อะธีน่า จึงได้โอกาสใส่ความว่า เมดูซ่า บังอาจลบหลู่นางด้วยการสู่สมในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ แล้วฉวยโอกาสสาบ เมดูซ่า ให้กลายเป็นมารร้ายน่าเกลียดน่ากลัว และสาปให้ผมอันสวยงามลือชื่อของนาง กลายเป็นงูเต็มหัว จากสาวงามเลื่องชื่อ ต้องมากลายเป็นมารร้ายที่น่าชิงชังขยะแขยง จนใครที่ได้เห็น จะต้องกลายเป็นหินไป เมดูซ่า ทั้งชอกช้ำ ทั้งอับอาย ก็แปรความเจ็บช้ำที่ได้รับให้กลายเป็นความเคียดแค้นชิงชัง ต้องการทำร้ายหมายมาดทุกชีวิตที่ขวางหน้า โดยทำให้กลายเป็นหินไปจากการมองหน้าของนาง เป็นการตอบโต้ความอยุติธรรม ที่ทำให้นางต้องรับ ชะตากรรมอันโหดร้าย เมดูซ่า จึงกลายเป็นมารร้าย ผู้เป็นที่กล่าวขวัญถึง มากที่สุดในตำนาน กรีก มีทั้งภาพสลัก รูปปั้นต่างๆของเมดูซ่าตามวิหารต่างๆมากมาย